ปัจจุบันประเทศไทยนั้นเป็นประเทศที่มีภาษีเรื่องรถยนต์ สูงเป็นอันดับต้นๆของโลกแต่กับมีกำลังการจัดซื้อจัดหาและการตลาดสูง ผู้ประกอบการของรถยนต์แต่ละยี่ห้อนั้นแข่งขันทางด้านการตลาดอย่างหนักหน่วง ทำให้ประเทศไทยนั้นเป็นประเทศที่มีการซื้อรถยนต์มือหนึ่งป้ายแดงมากจนติดอันดับต้นๆของเอเชีย แต่ปัญหาจากปัจจัยอื่นๆซึ่งทำให้คนไทยหลายๆคนล้มเหลว ในเรื่องของการผ่อนรถยนต์ นั่นก็คือโปรโมชั่นของการตลาดที่เกิดขึ้นหลายรูปแบบ เช่น การใช้เงินดาวน์น้อย แต่กลับไปหนักในช่วงระยะเวลาของการผ่อนในแต่ละเดือน จนไปถึงดอกเบี้ยที่สูงลิ่ว ของแถมอื่นๆที่ทำให้ลุกค้าตัดสินใจได้ง่ายขึ้น และ โปรโมชั่นส่วนลดอื่นๆ 50,000 ถึง 100,000 บาท อีกทั้งยังมีนโยบายรัฐในอดีตคืนภาษีรถยนต์คันแรก จึงทำให้เกิดปัญหาการยึดรถป้ายแดงเพราะขาดผ่อนตามมา
และในปัจจุบัน รถยนต์มือสองจึงกลายมาเป็นตัวเลือกสำหรับผู้มีรายได้น้อย ถึงปานกลาง รวมไปถึงระดับผู้มีอันจะกินแต่ก็ส่วนน้อย แต่ทราบหรือไม่ว่ารถที่เข้ามาอยู่ในตลาดมือสอง ไม่ใช่ว่าทุกรุ่นจะสามารถขายได้ง่ายๆ บางรุ่นถึงกับค้างสต๊อกอยู่ในเต็นท์รถจนแทบอยากจะโยนทิ้งเลยทีเดียวเพราะด้วยเหตุผลมากมาย
1. Mitsubishi Lanser EX 2011
เหลือเชื่อมั้ยหละครับ ว่า รถรุ่นที่เป็นตำนานๆ อย่าง Lanser Ex จะมาถึงจุดยอดแย่ถึงเพียงนี้ สำหรับคนที่อยากขายเต็นท์ก็จะประสบพบเจอกับปัญหากับเรื่องราคาที่หายไปกว่า 50 % ของราคามือหนึ่ง เพราะด้วยปัญหาในเรื่องของอัตตราการซดน้ำมัน E85 ในเมือง 7 กิโลลิตร นอกเมือง 10 กิโลลิตร , E10 ในเมือง 10 กิโลลิตร นอกเมือง 12 กิโลลิตร สำหรับคนที่เคยคิดจะซื้อรุ่นนี้จะรู้ดีว่า มีตัวเลือกในเรื่องของขนาดเครื่องน้อยมากๆ มีเพียง 1.8 ลิตร และ 2.0 ลิตรเท่านั้น ในข้อเสียที่มีเหมือนจะมากมาย แต่เครื่องยนต์ ในรุ่น นี้สามารถปรับแต่งให้มีกำลังสูงได้มากเลยทีเดียว เพราะระบบต่างๆของภายในเครื่องยนต์ Lanser Ex เป็นระบบที่ใกล้เคียงกับ Lanser Evolution สายซิ่งต้องชอบแน่นอน
ปัญหาเรื่องของการบริการของทางศูนย์ในช่วงตอนเปิดตัวใหม่ๆนั้น กับเรื่องราวของเกียร์ที่เสียบ่อย ซึ่งเป็นข้อผิดพลาดของ ทางศูนย์การให้บริการเองที่ไม่ยอมเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ตามระยะกิโลเมตรที่เหมาะสม จนสุดท้าย เป็นปัญหาเรื่องเกียร์พังซ่อมและถูกขายทิ้งหรือปล่อยยึด แต่ปัญหานี้ก็ไม่ได้เกิดในทุกๆคัน จึงทำให้รถ Nissan Almera ในปี 2011 มีผลพวงจากเหตุการณ์เหล่านี้จนหลายๆคนไม่กล้าที่จะซื้อไปใช้งาน จึงทำให้ราคารถมือสองในปัจจุบันตกลงไปอย่างเห็นได้ชัด
สำหรับ Mazda 3 คงจะไม่พ้นเรื่องปัญหา อะไหล่แพงผ้าเบรคแพง รวมไปถึง โช๊คอัพ เมื่อใช้งานไปนานๆ บางครั้งก็ต้องเปลี่ยน และราคาอะไหล่ต่างๆนั้นก็แพงกว่ารถระดับเดียวกันในบางยี่ห้อ เครื่องยนต์ ไม่ทนแก๊ส ไม่ทนน้ำเหมือนกับคู่แข่ง และเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ก็ค่อนข้างกินน้ำมันอยู่พอสมควรแต่จุดเด่นของตัวนี้เครื่องสามารถใช้แก๊สได้ด้วยไม่งอแงเท่าไหร่ และช่วงล่างเงียบ งานการประกอบภายในก็เนียบตั้งแต่สายการผลิตแต่ราคาก็ยังตกเอาเรื่อง
4. MG 6 2012
สำหรับ MG 6 เป็นรถสัญชาติอังกฤษที่มีสายการผลิตในจีน และด้วยความพร้อมเกี่ยวกับเครื่องยนต์และระบบต่างๆ อย่างเช่น เครื่องยนต์มีอัตตราการกินน้ำมันค่อนข้างมากอีกทั้งระบบเกียร์มีอาการเอ๋อหน่อยๆ จึงเป็นปัญหาหลักที่แก้ไม่ตกอยู่แล้ว อีกทั้งเป็นแบรนด์ที่เริ่มๆจะเข้ามามีบทบาททางการตลาดในไทย แต่ในข้อเสียนั้นก็ยังมีข้อดี เพราะการประกอบภายในของ MG6 ต้องยอมรับว่า งานเนียบมากๆ เหมือนกับรถระดับหรูๆ อย่าง BMW ถ้าใครเคยลองเข้าไปนั่งด้านในต้องปลาบปลื้มใจในเรื่องของการออกแบบภายในเป็นแน่นอน
5. Chevrolet Optra 2006
ปัญหาหลักๆที่เกิดขึ้น Chevrolet Optra 2006 มีหน้าตา ที่ค่อนข้างโบราณนิดหน่อยแต่ก็เป็นรถอีกรุ่นนึงที่มีช่วงล่างที่เหนียวแน่นหนึบพอสมควร และปัญหาที่พบบ่อยๆเกี่ยวกับ optra นั้นก็คือใช้ไปไม่นานเกิดอาการแอร์ไม่เย็นเพราะสาเหตุเกิดจาก Chevrolet Optra 2006 ระบบคอมเพลสเซอร์จะต่างจากรถญี่ปุ่นโดยสิ้นเชิงซึ่งคอมเพลสเซอร์จะถูกแยกออกมากับส่วนของระบบรอบเครื่องยนต์หมดปัญหาเรื่องคอมแอร์กระชากให้รอบเครื่องตก แต่เจ้าคอมเพลสเซอร์ก็จะทำงานตลอดเวลาดังนั้น อายุการใช้งานของคอมเพลสเซอร์ก็จะสั้นลงตามไปด้วย และอีกหนึ่งปัญหาก็คืออัตราการกินน้ำมันก็หนักหนาอยู่พอสมควร จึงเป็นสาเหตุหลักๆที่ทำให้ Optra เป็นรถมือสองราคาตกอีกหนึ่งคัน แต่ข้อดีของรุ่นนี้คือค่อนข้างจะทนแก๊สอยู่พอสมควรเพราะถูกออกแบบเป็นระบบ Hydrolic Valve ซึ่งจะต่างกับรุญี่ปุ่นบางรุ่นที่เป็น Direct Valve
เอาเป็นว่าสาเหตุหลักๆที่เกิดขึ้นนั้น คงเป็นเพราะ อายุการใช้งาน มาหลากหลายสำหรับรถยนต์มือสองที่เคยผ่านการใช้งานมาแล้ว และขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลว่า จะรับข้อเสียของรถรุ่นนั้นๆได้หรือไม่ เพราะด้วยการใช้งานของแต่ละคนนั้นก็ต่างกัน ดังนั้น ผมก็หวังว่า แต่ละท่านจะได้รถมือสอง ที่ตรงจุดประสงค์ของการใช้งานกันนะครับ