ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อครับว่าเวลาผ่านไปไวเหมือนโกหกเผลอแปปเดียวก็เข้าสู่ ปี 2018 แล้ว ปีใหม่ๆก็คงไม่พ้นรถรุ่นใหม่ๆ และในปีนี้ก็มีรถโฉมใหม่ๆเจเนเรชั่นใหม่ๆให้ได้ชมกันอีกเพียบ พร้อมด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอีกมากมายเรียกได้ว่า หากใครที่กำลังติดตามข่าวสารรถยนต์ห้ามพลาดเลยหละครับ วันนี้เราจะมาดู 10 อันดับรถรุ่นใหม่ๆที่จะวางขายใน ปี 2018 กันครับ
1.TOYOTA C-HR 2018
สำหรับรถยนต์ Crossover กระทัดรัด 5 ประตู 5 ที่นั่ง ทรงคูเป้รุ่นใหม่ๆอย่าง TOYOTA C-HR คงหนีไม่พ้นเป็นรถยนต์ที่โดดเด่นด้วยดีไซน์จนมีกระแสตอบรับอย่างล้นหลาม และได้เปิดตัวในงาน Moter Expro ในปีที่ผ่านมา โดยสเปคของ C-HR จะมี 2 รุ่นด้วยกัน
เริ่มต้นที่เครื่องเบนซิล 1.8 ลิตร Dual VVT-i ทำงานคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 Speed และเกียร์อัตโนมัติ CVT ที่มีในเวอร์ชั่นขับเคลื่อน 4 ล้อและ 2 ล้อหน้า แต่สำหรับบางตลาดจะใช้เครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร ที่มีให้เลือกเฉพาะเกียร์อัตโนมัติ CVT เท่านั้น
2. MG ZS 2018
อีกหนึ่งรถยนต์ Crossover ที่กำลังมาแรง อย่าง MG ZS 2018 รถยนต์แบรน์ดอังกฤษแต่ถูกผลิตในจีน และได้ข่าวมาว่ากำลังตั้งถิ่นฐานในไทยอีกด้วย จุดขายเปิดตัวด้วยคำสั่งเสียงเมนูภาษาไทย ที่สามารถโต้ตอบแบบภาษาไทยได้เป็นอย่างดี เป็นฟังค์ชั่นโดดเด่นและเป็นจุดขายของทางค่ายเลยก็ว่าได้ MG ZS 2018 เป็นรถยนต์ 5 ประตู ที่มีรูปทรงค่อนข้างสปอร์ท อยู่ในระดับเดียวกับ Honda HR-V หรือ Mazda Cx5 และเป็นรถยนต์ที่มีราคาไม่สูงมากนัก
สำหรับเครื่องยนต์ ของ MG ZS 2018 มีให้เลือกถึง 3 แบบ คือ
- เบนซิล 4 สูบ 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 122 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 150 นิวตันเมตรจับคู่กับเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหน้า
- เบนซิน 4 สูบ 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 122 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 150 นิวตันเมตร
จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหน้า - เบนซิน 3 สูบ 1.0 ลิตร เทอร์โบ กำลังสูงสุด 127 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 170 นิวตันเมตร
จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Dual Clutch 6 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหน้า
3. Mazda CX-5 2018
Mazda CX-5 ปี 2018 จากคำนิยามติดปากอย่าง Zoom Zoom ทั้งความเทห์และโฉบเฉี่ยวสไตล์สปอร์ท โดย Mazda Cx-5 โฉมใหม่ล่าสุด SUV ขนาดคอมแพค 5 ประตู 5 ที่นั่ง เปิดตัวครั้งแรกเมื่อช่วงกลางปี 2017 ที่ผ่านมา โดยโฉมนี้เป็นเจเนเรชั่นที่ 2 ของ CX-5 ภายนอกสัดส่วนตัวถังแทบจะไม่เปลี่ยนแปลงเพียงแต่จะปรับเส้นสาย ลวดลายของการออกแบบ ให้ดูสปอร์ทโฉบเฉี่ยวด้วยการปรับเปลี่ยนลุคให้ดูมีความเป็นพรีเมี่ยม มากขึ้น มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ 3 แบบให้เลือก
- เครื่องยนต์ดีเซล SKYACTIV-D ขนาดความจุ 2.2 ลิตร
- เครื่องยนต์เบนซิล SKYACTIV-G ขนาดความจุ 2.0 ลิตร
- เครื่องยนต์เบนซิล SKYACTIV-G หัวฉีดตรง ขนาดความจุ 2.5 ลิตร
และเครื่องยนต์ทั้ง 3 แบบ จะถูกจับคู่การทำงานกับเกียร์อัตโนมัติ 6 Speed ส่งกำลังผ่านระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ i-ACTIV AWD แบบ Realtime
4. Nissan Navara PPV 2018
เป็นอีกหนึ่งรถ PPV อเนคประสงค์ที่หลายๆคนนั้นคอยติดตาม แง้มแล้วแง้มอีกว่าอยากจะเห็นโฉมเต็มๆหลังจากเมื่อปีที่แล้วได้ปล่อย Demo Car ติดสติกเกอร์เซนเซอร์ซะรอบคันทำให้สร้างความอยากรู้อยากเห็นเข้าไปอีก และในปีนี้เปิดตัวให้เห็นภายนอกชัดๆกันซักที คราวนี้เปลี่ยนกันชนหน้าใหม่และเพิ่มซุ้มล้อให้ใหญ่ขึ้นดีไซน์พร้อมลุยไปได้ทุกที่
พร้อมด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ ดีเซล เทอร์โบ 2.5 ลิตร รุ่น YD 25DDTI ทั้ง 163 แรงม้า 3,600 รอบต่อนาที แรงบิด 403 นิวตันเมตร ที่2,000 รอบต่อนาที และแรงสุด 190 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิด 450 นิวตันเมตรที่ 2,000 รอบต่อนาที
และเครื่องดีเซลเทอร์โบ dci รหัส YS23DDT ขนาด 2.3 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 163 แรงม้า ที่ 3,750 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 403 นิวตันเมตร ที่ 1,500-2,500 รอบต่อนาทีแรงสุดด้วยพลังเทอร์โบคู่ รหัส YS23DDTT 190 แรงม้าที่ 3,750 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 40 นิวตันเมตร ที่ 1,500-2,500 รอบต่อนาที
และแน่นอนว่า Nissan Navara PPV 2018 เปลี่ยนรูปลักษณ์ โฉมใหม่ และเปลี่ยนชุดแต่งทั้งหมด จากเดิม รวมไปถึงดีไซน์ที่ทำให้ใหญ่ขึ้น รู้สึกถึงความมั่นคงในการขับขี่ และในปี 2018 นี้ ยังไม่กล้ารับประกันว่าจะวางขายในปีนี้หรือไม่ ต้องคอยลุ้นดูนะครับ
5. All-New Toyota Camry 2018 ใหม่
สำหรับรถ TOYOTA Camry 2018 เป็นรถที่มี รุ่นใหม่ๆ ในทุกๆ ปี และจะเปิดตัวในปี 2018 อย่างแน่นอน เพราะรถยนต์ระดับกลาง D-Segment ที่เหมาะกับผู้บริหารใหม่หรือวัยรุ่น ด้วยดีไซน์ปรับเปลี่ยนให้ดูเป็นสปอร์ทมากกว่าที่จะเป็นรถผู้ใหญ่ไปซะแล้ว สำหรับรุ่นย่อยๆ ที่ได้ถูกผลิตออกมาวางขายที่ ญี่ปุ่นเป็นประเทศแรก จะเป็น L/LE/SE/XLE และ XSE และราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 9.8 แสนบาท จนไปถึง 1.25 ล้านบาทเลยทีเดียว
เครื่องยนต์แบบ V6 3.5 ลิตร จำนวน 2 รุ่น ได้แก่ XLE V6 และ XSE V6 ปิดท้ายด้วยเครื่องยนต์ไฮบริดอีก ได้แก่ HV LE/ HV SE และ HV XLE โดยแต่ละรุ่นจะแตกต่างกันทั้งขุมพลัง และออพชั่นที่ให้เฉพาะรุ่นเรียกได้ว่า Toyota Camry พัฒนาระบบทางเลือกอย่าง HYBRID ได้อย่างต่อเนื่อง โดย เริ่มจากเครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร 4 สูบ “Dynamic Force” พร้อมระบบวาลล์แปรผัน Dual VVT-i กับ VVT-iE พร้อมหัวฉีดไดเร็คอินเจคชั่น ให้ความเร็วอยูที่ระดับ 260 แรงม้า
อีกขุมพลังจะเป็นเครื่องยนต์ V6 ความจุ 3.5 ลิตร ให้สมรรถนะสูงสุด 301 แรงม้า แรงบิด 267 ปอนด์/ฟุต โดยขุมพลังเบนซินความจุ 2.5 ลิตรและ 3.5 ลิตรจะติดตั้งเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดแบบใหม่ ส่วนขุมพลังไฮบริด จะใช้ระบบ CVT เป็นระบบส่งกำลังมาตรฐาน
และในประเทศไทย จะมีเพียง 3 รุ่นย่อย ได้แก่ X, G และ G “Leather Package” หลังคาพาโนรามิกซันรูฟ ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว เป็นอุปกรณ์มาตรฐานเฉพาะรุ่นย่อย G “Leather Package” และหลังคาพาโนรามิกเป็นออปชั่นสำหรับรุ่นย่อย G เท่านั้น
6. All-New Subaru XV 2018
Subaru XV 2018 เป็นรถที่ได้เปิดตัวในไทยครั้งแรกเมื่อปลายปีที่ผ่านมา เป็นรถยนต์ เจเนเรชั่นที่ 2 ที่ได้ออกแบบให้ดูเป็นรถสปอร์ท ขุมพลัง เครื่องยนต์ Boxer รหัส FB20 หัวฉีดตรง 2.0 ลิตร 156 แรงม้า 6,000 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุดที่ 196 นิวตันเมตร ที่ 6,000 รอบต่อนาที ทำงานร่วมกับ เกียร์ CVT 7 สปีด ขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบสมมาตร Symmetrical AWD มีฟีเจอร์ X-Mode ที่จะพาคุณผ่านอุปสรรค์ไปได้ทุกเส้นทาง
Subaru XV 2018 เป็นรถยนต์ Crossover SUV ใช้เครื่องยนต์ Boxer ที่มีความสมดุลสูง แต่ต้องยอมรับว่า เป็นรถที่มีราคาสูงว่ารถ Crossover ที่มีราคาสูงกว่ารถในระดับเดียวกันอยูบ้างเพราะความพิเศษของรูปแบบเครื่องยนต์
และสีที่จะวางจำหน่าย จะมี
– สีขาว
– สีเงิน เมทัลลิก
– สีเทาเข้ม เมทัลลิก
– สีดำ
– สีน้ำเงินเข้ม
– สีส้ม ซันไชน์ ออเรนจ์ (โทนใหม่)
7. Mazda CX-5 ปี 2018
Mazda CX-5 2018 ได้เปิดตัวในตลาดโลกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในปี 2017 ที่ผ่านมา และเป็นเจเนเรชั่นที่ 2 แล้วสำหรับ CX-5 เปลี่ยนภาพลักษณ์ให้ดูทันยุกต์ทันสมัยมากยิ้งขึ้น เส้นสายถายนอกดูไม่ค่อยต่างจากเจเนเรชั่นแรกเท่าไหร่นัก ด้วยทางผู้ผลิตได้ให้เหตุผลว่า Mazda CX-5 ในเจเนเรชั่นแรก เป็นรถยนต์ที่ดีอยู่แล้ว และในเจเนเรชั่นที่จึงพัฒนาต่อยอดให้ดียิ่งๆขึ้นไปอีก
ส่วนสเปคของเครื่องยนต์ ที่จะวางขาย จะเป็นเครื่องยนต์แบบ เบนซิล SKYACTIVE-G 2.0 ลิตร และ ดีเซล SKYACTIVE-D 2.2 ลิตร ทำงานคู่กับเกียร์อัตโนมัติ SKYACTIVE-DRIVE 6 สปีด และยังมีระบบ G-Vectoring Control (เทคโนโลยีลดแรงบิดลงล้อเมื่อเข้าโค้งด้วยความเร็ว) i-ACTIVSENSE (ระบบรักษาระยะห่างของรถยนต์ฺ) ล้ออัลลอย ขนาด 17 และ 19 นิ้ว
จุดเด่นของฟีเจอร์ภายในคงเป็นและระบบเครื่องเสียงระดับพรีเมี่ยมอย่างลำโพง Bose 10 ตัว ที่ทำงานร่วมกับ จอแสดงผลขนาด 7 นิ้ว + MZD Connect และฟีดเจอร์อื่นๆอีกมากมายที่เคยใส่ใน CX-5 เจเนเรชั่นแรก
8. Honda Accord 2018
สำหรับรถยนต์ Honda Accord 2018 นั่นเคยเปิดตัวเมื่อช่วงเดือน ก.ค. ปีที่ผ่านมาก และนักว่าเป็นรถยนต์สายการผลิตที่เจเนเรชั่นที่ 10 แล้ว เรียกได้ว่าพัฒนาอย่างต่อเนื่องมาอย่างยาวนาน โดย Honda Accord 2018 ได้พัฒนาเครื่องยนต์ควยคู่กับเทคโนโลยี Engine Downsizing ที่ลดความจุของเครื่องยนต์ลง และเพิ่ม Turbo Charger เข้าไปอีกด้วย ทำงานคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 Speed และได้พัฒนาถึงตัวถังและโครงสร้างให้เบาลง แต่แข็งแรงมากขึ้น และมีการใช้วัสดุแบบ Ultra high strength เข้ามาประกอบด้วย คุณสมบัติน้ำหนักเบาและแข็งแรงสามารถลดการบิดตัวขณะเข้าโค้งได้
– เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร (US Spec) ให้กำลังสูงสุด 192 แรงม้า (HP) ที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 260 นิวตัน-เมตร ที่ 1,500 – 5,000 รอบต่อนาที
– เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 2.0 ลิตร (US Spec) ให้กำลังสูงสุด 252 แรงม้า (HP) ที่ 6,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 370 นิวตัน-เมตร ที่ 1,500 – 4,000 รอบต่อนาที
Honda Accord 2018 ได้ ติดตั้งระบบ Honda Sensing ไว้ในทุกรุ่นย่อย คือระบบป้องกันการชนด้านหน้า CMBS ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลนส์โดยไม่ได้ตั้งใจ ระบบป้องกันรถตกถนน ระบบควบคุมความเร็วแปรผันอัตโนมัติเมื่อตามคันหน้าที่มีความเร็วต่ำ เป็นระบบที่เคยถูกใส่ไว้ในรุ่นท๊อปๆ ส่วนเจเนเรชั่นนี้ ใด้ใส่มาให้ในทุกรุ่นย่อยแล้ว
9. Mitsubishi Xpander 2017
เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่น่าติดตามสำหรับ Mitsubishi Xpander 2017 แต่จะวางจำหน่าย ในปี 2018 นี้ที่ไทย เป็นรถ MPV ขนาด 7 ที่นั่ง สาายการผลิด อินโดนิเซีย ที่ออกแบบให้ดูบึกบึนคล่องตัวเหมือน รถ SUV และได้เน้นความกว้างของห้องโดยสาร และมีให้เลือกถึง 6 รุ่นย่อยในตลาดอาเซี่ยน ได้แก่ GLX MT, GLS MT, Exceed MT, Exceed AT, Sport AT และ Ultimate AT ดีไซน์แปลกตาไฟหน้าเรียวแหลมแต่ไฟกันชนหน้าใหญ่ ตัวถังทรงสูงห้องโดยสารภายในของ Xpander มีความกว้างขวาง และได้ซ่อนพื้นที่ใช้งานเก็บสัมภาระต่างๆไว้มากมาย โดยมีที่วางแก้ว ถึง 16 จุดภายในรถ ช่องเก็บของใต้เบาะและโซนหลัง
เครื่องยนต์ เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร MIVEC กำลังสูงสุด 105 แรงม้า ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 4 Speed และเกียร์ธรรมดา 5 Speed มีให้เลือกเฉพาะระบบขับเคลื่อนล้อหน้าเท่านั้น
– GLX MT ราคา 472,000 บาท
– GLS MT ราคา 520,000 บาท
– Exceed MT ราคา 535,000 บาท
– Exceed AT ราคา 560,000 บาท
– Sport AT ราคา 591,000 บาท
– Ultimate AT ราคา 611,000 บาท
10. Suzuki Swift 2018
Suzuki Swift Sport 2018 โฉมใหม่ล่าสุดเปิดตัวเมื่อปีัก่อนที่งาน โตเกียวมอเตอร์และได้ถูกพัฒนามาจากรุ่นก่อน ซึ่งในตลาดของทางญี่ปุ่น จะมีให้เลือกทั้งหมด 6 รุ่นย่อย โดยติดตั้งเครื่องยนต์ เบนซิน VVT 4สูบ เทอร์โบไดเร๊คอินเจคชั่น ขนาด 1.4 ลิตร Boosterjet 140 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิด สูงสุด 230 นิวตันเมตร ที่่ 2,500-3,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 230 นิวตันเมตร ที่ 2,500-3,500 รอบต่อนาที ทำงานควบคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด โดยเคลมอัตตราการสิ้นเปลืองที่ 16.4 กม./ลิตร
การออกแบบเน้นความสปอร์ทอย่างชัดเจน Suzuki Swift 2018 ได้มีการปรับดีไซน์ทั้งหมด โดยไฟหน้า ติดตั้งเป็นแบบโปรเจคเตอร์ LED พร้อม Daytime Running Light แบบ LED ภายในโคม ด้ามประตูหลัง ถูกซ่อนไว้ริมกรอบกระจกมีการติดตั้งระบบของความปลอดภัย ระบบเตือนเมื่อกำลังออกนอกเลน ระบบเตือนเมื่อรถเคลื่อนที่ เป็นต้น
โดยทั้งหมดนี้ เป็นรถยนต์ที่กำลังจะวางขายในปี 2018 นี้ โดยทีมงาน Sure2Car ได้นำตัวอย่างคร่าวๆมาฝากกันครับ สำหรับใครที่ติดตามข่าวยานยนต์ หรือกำลังหารถมือสองใช้งานสภาพดีๆ สวยๆก็สามารถพูดคุญสอบถามได้ที่ POPUP ด้านล่างเลยครับ